*** “วลีตอบคำถามที่เปรียบเปรยยามน้องถาม” ***
ขอสาธุคุณยามเช้า
การเดินอย่างช้าๆ ไม่ได้หมายความว่า เราเดินถอยหลังจนตามใครไม่ทัน
เป็นแต่ ใครๆเขาไปไกลกว่ากัน แต่เราก็ยังย่ำเดินไม่ท้อใจ
สุดท้ายการเดินไปของเรา ก็ถึงปลายทางที่ไม่ได้เหนื่อยหน่ายเหมือนการเดินด้วยความรีบร้อน
ตะปูแม้แข็งกว่าเนื้อไม้ หากไม่โดนค้อนตอกย้ำลงไป ไฉนเลยความแข็งแห่งตะปู จะแทรกมุดลงไปยึดตรึงในเนื้อไม้ได้
ชีวิตคนเราก็เช่นกัน ทุกอย่างอาศัยเหตุปัจจัยขับดัน ตอกย้ำให้ได้ก้าวออกเดินไป ยังเบื้องหน้าเสมอ
วันใดที่ท้อแท้ ลองเหลียวมองกลับไปดูหนทางที่เดินผ่านมาของเรา
วันที่แสนท้อแท้วันนี้ มันเล็กน้อยกว่าวันนั้นที่ผ่านมา แต่เราก็ผ่านมาถึงวันนี้ได้
มองไปด้านหน้าแสนท้อแท้ พึงหันมามองเส้นทางเบื้องหลังที่ผ่านมาได้ด้วยความภูมิใจบ้าง..
หากพูดดีๆกับใครไม่เป็น ก็หมั่นหัดเริ่มต้นพูดดีๆกับตัวเองบ้างก็ได้ ใจจะได้ไม่ไปขบกัดใครด้วยคำพูด
พระอาทิตย์ส่องสว่างทุกเช้า ชีวิตเราก็เริ่มใหม่ได้ทุกวันเช่นกัน
วันวานบางอย่างมันเฮงซวยเกินกว่าจะไปเก็บมาเป็นอาหารเช้า..
การเข้าใจใครซักคน ว่าเขาเป็นธรรมชาติของเขาอย่างนั้น
ความรักที่เราใส่ซองให้เขา ยอมไม่สูญเปล่าและขบกัดเอาเวลาเปิดซอง
หากอยากจะดูแลหัวใจใคร ลองหัดใส่ใจคนข้างๆที่เขาก็มีหัวใจดูก่อน
รอยที่กรีดลงไปบนหินผานั้นอยู่นาน รอยกรีดลงบนหัวใจนั้นอยู่นานกว่า เราพึงสังวร.
หากให้ความรู้สึกดีๆ กับใครเขาไม่ได้
ก็ให้ย้อนกลับมาให้ความรู้สึกดีๆ กับใจตนเองบ้าง
เพื่อให้รู้สึกกับใครเขาดีๆ
ทะเลนั้นเค็ม ตรงไหนก็เค็ม
แต่ทะเลไม่เคยปฏิเสธสายฝนและธารน้ำที่จืดสนิท
คนเราก็เช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นชนเช่นไร
ก็ไม่ควรปฏิเสธผู้ใด ที่เห็นว่า
เขาไม่เข้ากับใจตน
เพราะความเป็นตนที่ไม่เหมือนกับใครๆ
บางครั้งเราอาจไม่ได้ดั่งใจ
เราก็พึงคิดไว้ประจำใจ
ว่าใครเขาก็อาจไม่ได้ดั่งใจเขาต่อเราที่เราเป็นเช่นกัน
ไม่จำเป็นต้องเอาใจใคร
เพื่อให้เราดูดีในสายตาเขา
แต่เราพึงเข้าใจเขา
เพื่อให้เขาเป็นสิ่งดีๆสำหรับเราเช่นนี้ก็พอ
อย่าไปคิดเปลี่ยนแปลงโลกเพื่อให้ได้ดั่งใจเรา
เราพึงหัดเปลี่ยนตัวเรา
เพื่อให้เข้ากับโลกเขาให้ได้จะง่ายต่อการมีที่ยืน
หวัดดียามเช้าก่อนลากซากสัตว์และพืช
มาหมักอยู่ในลำไส้ …
พระธรรมเทศนา ณ วันที่ 2 ตุลาคม 2562
โดย พระอาจารย์ธรรมกะ บุญญพลัง